กิจกรรมโครงการ
กิจกรรมจัดทำแปลงปลูกผัก
คณะอาจารย์ที่ปรึกษาและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ“โครงการพัฒนานวัตกรรมการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ในพื้นที่ โคกหนอง นา โมเดล ตำบลหนองพลวง” ลงพื้นที่ จัดทำแปลงผัก โดยใช้วัสดุก้อนอิฐ โดยมีจำนวน3แปลง
กิจกรรมลงพื้นที่ของโครงการย่อยที่ 2
คณะอาจารย์ที่ปรึกษาและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ“โครงการพัฒนานวัตกรรมการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ในพื้นที่ โคกหนอง นา โมเดล ตำบลหนองพลวง” เพื่อออกแบบกระบวนการส่งเสริมการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์...
กิจกรรมลงพื้นที่ของโครงการย่อยที่ 3
คณะอาจารย์ที่ปรึกษาและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ “โครงการ การถอดบทเรียน การขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ปฏิบัติการทางสังคม (Social lab) และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ โคก หนอง นา ตำบลหนองพลวง”...
กิจกรรมลงพื้นที่ของโครงการย่อยที่ 1
คณะอาจารย์ที่ปรึกษาและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ“โครงการส่งเสริมต่อยอดแหล่งเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่สามารถแปรรูปสินค้าทางเกษตรและสามารถประหยัดพลังงาน...
กิจกรรมการปฐมนิเทศนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ
การประชุมนักศึกษาในโครงการฯ ทั้งหมด 14 คน โดยมีการอธิบายแนวคิดยุวชนอาสา ข้อกำหนด/แนวทางการการเรียนรู้ของนักศึกษา ตลอดจนการอธิบายโครงการยุวชนอาสาในพื้นที่จังหวัดอื่น...
การประชุมชี้แจงโครงการ
อว.ชู โครงการยุวชนอาสา จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของระบบอุดมศึกษาไทย เน้นปฏิบัติ-ทำงานจริงในพื้นที่ พร้อมพัฒนาและสร้างทักษะใหม่
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการยุวชนอาสา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการยุวชนอาสา นำโดย นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมทั้งผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์ และนิสิต นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 350 คน จาก 30 สถาบัน เข้าร่วม ที่ ห้องประชุมชั้น 6 อาคารอุดมศึกษา 1
ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวว่า โครงการยุวชนอาสา ถือเป็นโครงการที่เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบอุดมศึกษาไทย โดยเน้นภาคปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎีที่ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์และทำงานจริงในพื้นที่ น้องๆ นักศึกษาก็จะมีโอกาสในการพัฒนาและสร้างทักษะใหม่ (Upskill- Reskill) ซึ่งเมื่อมองในเรื่องของการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนให้ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน มหาวิทยาลัยควรจะต้องให้ความสำคัญในการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงมากขึ้น และควรจะต้องให้ชุมชนเข้ามามีส่วนในการออกแบบหลักสูตรร่วมกัน สิ่งที่ อว. ผลักดันอยู่ในขณะนี้ คือ การสร้างกระบวนการการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) ที่จะช่วยพัฒนากำลังคนของประเทศให้ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคม/ชุมชน ผ่านกลไกหลักสูตรแซนด์บอกส์, GenNX model และโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เป็นต้น และ ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องมีกลไกการพัฒนากำลังคนของประเทศให้ครอบคลุมความต้องการของคนแต่ละกลุ่ม โดยจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการทำให้การศึกษามีคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาทักษะต่างๆ ให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มได้อย่างไม่มีข้อจำกัด